บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พุทธคุณ – โลกวิทู [2]



ในบทความ  พุทธคุณ – โลกวิทู [1]  ผมได้นำเสนอโลกวิทูไป 2 ประเภทแล้ว คือ สังขารโลก กับ สัตว์โลก บทความนี้ มาต่อกันที่ “โอกาสโลก

โอกาสโลก

สภาพที่รับรองซึ่งกันและกัน คือ อากาศรับรองธาตุไฟๆ รับรองธาตุน้ำๆ รับรองธาตุดินๆ รับรองภูเขาตรีกูฏๆ รับรองภูเขาสุเมรุราช

ภูเขาสุเมรุราชรับรองชั้นจาตุมหาราชๆ รับรองชั้นดาวดึงส์ๆ รับรองชั้นยามาๆ รับรองดุสิตๆ รับรองนิมมานรดีๆ รับรองปรนิมมิตวสวัตตี

ปรนิมมิตวสวัตตีรับรองพรหมปริสัชชาๆ รับรองพรหมปโรหิตาๆ รับรองมหาพรหมาๆ รับรองปริตตาภาๆ รับรองอัปปมาณาภาๆ รับรองอาภัสสราๆ รับรองปริตตสุภาๆ รับรองอัปปมาณสุภาๆ รับรองสุภกิณหาๆ รับรองเวหัปผลาและอสัญญสัตตาๆ รับรองอวิหาๆ รับรองอัตปปาๆ รับรองสุทัสสาๆ รับรองสุทัสสีๆ รับรองอกนิฏฐา

อกนิฏฐารับรองอากาสานัญจายตนะๆ รับรองวิญญาณณัญจายตนะๆ รับรองอากิญจัญญายตนะๆ รับรองเนวสัญญานาสัญญายตนะ

ส่วนสูง แต่มนุษย์โลกขึ้นไปถึงชั้นจาตุมหาราชิกาได้สี่หมื่นสองพันโยชน์  แต่จาตุมหาราชิกาขึ้นไปถึงดาวดึงส์ ได้สี่หมื่นสองพันโยชน์

แต่ดาวดึงส์ขึ้นไปถึงยามาได้สี่หมื่นสองพันโยชน์ แต่ยามาขึ้นไปถึงดุสิตได้สี่หมื่นสองพันโยชน์ แต่ดุสิตขึ้นไปถึงนิมมานรดีได้สี่หมื่นสองพันโยชน์ แต่นิมมานรดีขึ้นไปถึงปรนิมมิตวสวัตตีได้สี่หมื่นสองพันโยชน์

แต่ปรนิมมิตวสัตตีขึ้นไปห้าล้านห้าแสนแปดพันโยชน์ ถึงพรหมปริสัชชาขึ้นไปอีกเท่านั้น พรหมปโรหิตขึ้นไปเท่าๆ กันดังนี้ จนถึงเนวสัญญานาสัญญายตะ มีระยะสูงเท่าๆ กันดังนี้

ธาตุ ๖-ขันธ์ ๕

ธาตุส่วนหยาบที่มีอยู่ตามปกติ คือ
ดินหนา   ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์
น้ำหนา   ๔๘๐,๐๐๐ โยชน์
ไฟหนา   ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์
ลมหนา  ๑,๙๒๐,๐๐๐ โยชน์
วิญญาณหนา  ๓,๘๔๐,๐๐๐ โยชน์
อากาศหนาลงไปไม่มีที่สุด

เช่นภพ ๓ นี้อากาศที่อยู่รอบๆ ภพก็ไปจรดกับภพที่อยู่รอบๆ ออกไปข้างล่างจรดขอบบนของโลกันต์  ข้างบนจรดขอบล่างของนิพพาน ทุกๆ ระหว่างของภพเหล่านี้มีพระพุทธเจ้ารักษาอยู่ทั้งนั้น

โอกาสโลกก็คือ เรื่องของจักรวาลนั่นเอง  เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระสำหรับนักวิชาการที่เชื่อวิทยาศาสตร์เก่าแบบนิวตันอย่างหัวปักหัวปำ  เพราะ ดูแล้วเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมีสภาพการณ์อย่างนี้ในโลกจริงๆ

แต่ในปัจจุบันนี้ องค์ความรู้ของฟิสิกส์ได้ค้นพบความจริงของจักรวาลต่างๆ เป็นความจริงที่เชื่อได้ยากกว่า พิลึกพิลั่นกว่าเรื่องจักรวาลในศาสนาพุทธของเราเสียอีก


จักรวาลทั้งหลายทั้งปวงนั้น เกิดมาจาก “สิ่งที่ไม่มี”  ต่อมาเกิดบิกแบงขึ้น แล้วทุกอย่างก็มีขึ้นมี มีจักรวาลเป็นอนันต์

ถ้าเชื่อเรื่องจักรวาล เอกภพ หรือพหุภพของฟิสิกส์ใหม่ได้  ความรู้ของจักรวาลตามไตรภูมิพระร่วงก็ควรที่จะเชื่อถือได้เช่นเดียวกัน

ธาตุเหล่านี้ ความจริงเป็นเพียงธาตุส่วนที่เรียกว่าโอกาสโลก สำหรับธาตุที่เป็นส่วนขันธโลกนั้นละเอียดลงไปยิ่งกว่านี้หลายเท่าพันทวี  เพราะขันธ์นั้นเป็นธาตุที่กลั่นมาจากธาตุอีกทีหนึ่ง

เครื่องกลั่นธาตุนี้ ตั้งอยู่ในศูนย์กลางธาตุทั้ง ๖ ปริมาณความใหญ่โตของเครื่องก็เต็มธาตุนั้น  เมื่อเครื่องแรกกลั่นธาตุเหล่านี้แล้ว  ก็เอาแต่ส่วนที่ละเอียดที่สุดไปเก็บเข้าเครื่องกลั่นที่ ๒-๓-๔-๕-๖-๗ ต่อไปเป็นลำดับ

เมื่อเครื่องที่ ๗ กลั่นเสร็จแล้วก็ทำการส่งธาตุที่ถูกกลั่นนั้นเข้ามาที่เครื่องศูนย์กลางของภพ ๓ นี้ เมื่อเครื่องในภพ ๓ นี้รับธาตุมาแล้วก็จะเอามาเข้าเครื่องสำเร็จเก็บไว้ เป็นเซพทะเล

เซพทะเลเวลาที่ได้ธาตุมาแล้วเครื่องที่ศูนย์กลางภพ ๓ ก็จะทำหน้าที่ประกอบเป็นขันธ์ ๕ ขึ้น ประกอบได้สำเร็จพอกับปฐมวิญญาณ

ขันธ์ที่ประกอบไว้แล้วนั้นเป็นส่วนเฉพาะกายหนึ่งๆ ไม่มีปนเปกัน ส่วนดี ส่วนชั่ว ส่วนไม่ดี ไม่ชั่วก็มีผู้ควบคุมไว้เป็นส่วนๆ

เวลาที่จะส่งมาเป็นกายนั้น อาศัยกายทิพย์ที่มาถึงศูนย์กลางภพนั้นเข้าเครื่องประกอบพร้อมกับธาตุที่สำเร็จเป็นขันธ์  ประจำภพแล้ว ก็จะส่งเข้ายังเครื่องที่ศูนย์กลางกายพ่อ

ธาตุสำเร็จที่ส่งเข้าไปในศูนย์กลางกายของพ่อนั้น ขนาดเล็กเพียงเท่าเมล็ดโพธิ์เมล็ดไทรเท่านั้น  เป็นชายก็ส่งผ่านเข้าโดยทางจมูกขวาหญิงเข้าทางซ้าย 

เวลาที่จะออกจากศูนย์กลางกายพ่อไปอยู่ในศูนย์กลางกายแม่ก็อาศัยความดึงดูดของอายตนะของเครื่องที่มีอยู่ในศูนย์กลางกายแม่  รับเอามาจากศูนย์ของพ่อมาไว้ที่ขั้วมดลูกของแม่

ในส่วนนี้เป็นการอธิบายการมาเกิดของ “กายทิพย์” ต่างๆ อย่างที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้มาก่อน และสามารถอธิบายได้ว่า ทำไม พ่อ-แม่-ลูก จึงรักกัน

ต่อจากนั้นก็อาศัยธาตุส่วนหยาบรักษาหล่อเลี้ยงกันต่อไป  เวลาที่กายดับ  เครื่องในศูนย์กลางภพก็ดูดเอาธาตุเหล่านี้ไปเก็บไว้ตามเดิม


สำหรับขันธ์ของทิพย์  ก็กลั่นเอาไปจากขันธ์ของมนุษย์  ขันธ์ของทิพย์ก็กลั่นต่อไป  เป็นของรูปพรหม, อรูปพรหม, ธรรมกาย, ต่อๆ กันขึ้นไปเป็นลำดับ



4 ความคิดเห็น: